ธุรกิจเช่าโฟล์คลิฟท์เป็นธุรกิจที่ได้รับนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการการเช่ารถมากกว่าการซื้อรถกันมากขึ้น อีกทั้งการเช่ารถมีต้นทุนที่ถูกกว่า เพราะบางครั้งลูกค้าต้องการใช้งานเพียง 20 ชั่วโมงก็สามารถชำระค่าเช่าตามจริงเพียง 20 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อรถทั้งคัน ดังนั้นธุรกิจให้เช่ารถยกต่าง ๆ จึงหันมาเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์เพื่อให้รองรับความต้องของลูกค้าได้ พร้อมทั้งเตรียมนโยบายสำหรับรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดโดยที่คาดไม่ถึง สิ่งที่ผู้ประกอบการรถเช่ามักจะต้องเตรียมพร้อมไว้สำหรับผู้เช่า จึงมีดังต่อไปนี้
วิธีการรับมือการเช่าโฟล์คลิฟท์ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
กลยุทธ์สำหรับรับมือการเช่าโฟล์คลิฟท์สำหรับผู้ประกอบการไม่ได้มีเพียงการเพิ่มการให้บริการและบริการหลังการขายเท่านั้น แต่ต้องเตรียมความพร้อมไปถึงรถยกและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน อีกทั้งยังต้องเตรียมรับมือกับปัญหาของลูกค้าที่จะเกิดอีกนานัปการ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่แบบรอบด้านดังนี้
1. ความพร้อมของรถยกและอุปกรณ์
ผู้ประกอบการมักจะต้องดูแลรถยกที่จอดอยู่ในพื้นที่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย เพราะโฟล์คลิฟท์เป็นเครื่องจักรที่ต้องมีคนควบคุมอยู่ภายในห้องขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นนั่นหมายความว่าผู้ขับขี่จะได้รับอันตรายไปด้วย ดังนั้นรถยกทุกคันจะได้รับการตรวจสภาพและบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา
2. ความพร้อมของพนักงานขับขี่
ในบริษัทที่ให้บริการพนักงานขับขี่ด้วย จะทำการส่งไปอบรมทักษะการขับขี่ และเรียนรู้สัญลักษณ์มือต่าง ๆ ที่ใช้ในงาน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของรถเบื้องต้นที่พนักงานขับขี่ต้องมีความรู้ในการตรวจสอบรถ ทั้งก่อนสตาร์ทรถและหลังจากดับเครื่อง การอบรมจะช่วยให้พนักงานมีความชำนาญในงานขับขี่และดูแลโฟล์คลิฟท์มากขึ้น สามารถทำงานให้กับลูกค้าได้อย่างปลอดภัย
3. ความพร้อมของนโยบายการรับประกัน
ในการเช่าระยะยาวอย่างราย 6 เดือน หรือรายปี ผู้ประกอบการจะมีนโยบายรับประกันให้กับลูกค้า เช่น การรับประกันซ่อมแซมตลอดสัญญาเช่าภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เป็นต้น เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจและความประทับใจให้กับลูกค้าได้
4. ติดตามข่าวและนำมาพัฒนาการให้บริการ
ผู้ประกอบการที่ดีจะติดตามกระแสความนิยมต่าง ๆ ว่า ณ ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีแนวโน้มว่าจะใช้รถยกชนิดใดนอกเหนือจากการเช่าโฟล์คลิฟท์บ้าง และเตรียมจัดหามาเพื่อรองรับความต้องการใช้ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากขึ้น นอกจากนี้ควรเตรียมให้แน่ใจว่าภายในบริษัทมีรถจำนวนมากพอกับการเช่าของลูกค้า
5. ตรวจสอบเอกสารผู้เช่า
ก่อนทำสัญญาผู้ประกอบอาจจะขอตรวจสอบประวัติของผู้เช่า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ด้วยการขออนุญาติลูกค้าเพื่อทำการตรวจสอบประวัติและข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าตามที่กฎหมาย PDPA กำหนด และเมื่อลูกค้ายินยอมแล้ว จะทำการแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบด้วยว่า จะตรวจประวัติส่วนตัวของลูกค้าในส่วนใดบ้าง เช่น ประวัติอาชญากรรม และข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย
6. ถ่ายรูปรถก่อนรับรถไปใช้งาน
เมื่อตัดสินใจเช่าโฟล์คลิฟท์คันใด ควรทำการถ่ายรูปและเก็บประวัติรถคันนั้น ๆ ว่ามีจุดใดที่มีตำหนิบ้าง และมีอุปกรณ์ใดบ้างที่รับไปใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาการพิพาทกันเมื่อนำรถมาคืนแล้วรถไม่ได้อยู่ในสภาพเดิม เอกสารประวัติของรถจะช่วยแก้ปัญหาการพิพาทระหว่างกันได้
นอกเหนือจากนี้การทำสัญญาเช่าโฟล์คลิฟท์ ควรมีการระบุเงื่อนไขและนโยบายต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น การรับประกันซ่อมแซมรถตลอดสัญญาเช่าจะเกิดขึ้นต่อเมื่อปัญหานั้น ๆ เกิดจากตัวรถที่เช่าไป ไม่ได้เกิดจากการกระทำประมาทของลูกค้า และควรระบุจำนวนเงินให้แน่นอนว่า หากรถมีความเสียหายเกิดขึ้นหลังส่งคืนบริษัท จะมีการเรียกค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนที่ต้องซ่อมแซมตามจำนวนเงินจริง หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เป็นต้น การกระทำโดยรอบคอบเช่นนี้จะช่วยให้สามารถใช้งานรถได้อย่างสบายใจทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการพิพาทกันได้เป็นอย่างดี