มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นของที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด และเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แม้แต่รอบตัวเราก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นพัดลมตั้งโต๊ะ หรือแม้แต่ของเด็กเล่น ซึ่งขนาดของมอเตอร์ก็มีตั้งแต่ขนาดเล็กมากเท่ากันปลายนิ้ว ไปจนถึงขนาดใหญ่เท่าห้องก็มี ซึ่งจะใช้กับงานที่แตกต่างกัน ราคาของมอเตอร์ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดของมอเตอร์
นอกจากนี้มอเตอร์ยังสามารถแบ่งออกไปอีกได้หลายชนิดตามลักษณะการใช้งาน เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับมอเตอร์มากยิ่งขึ้น เราก็ได้รวบรวมเอามาไว้ให้แล้ว ว่ามอเตอร์มีกี่ประเภท มาดูกันเลย
ประเภทของมอเตอร์ไฟฟ้า
1.เอซีมอเตอร์
เป็นมอเตอร์ที่ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับโดยเฉพาะ แบ่งออกได้ 3 ประเภทคือ
- มอเตอร์เหนี่ยวนำ คือมอเตอร์ที่ไม่หมุนด้วยอัตราคงที่ หมายความว่าหมุนไม่เท่ากับความถี่ที่ให้มา
- ซิงโครนัสมอเตอร์ คือมอเตอร์ที่หมุนเท่ากับความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับ
- มอเตอร์อุตสาหกรรม คือมอเตอร์ที่ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับ แต่มีแรงดันไฟฟ้ามากกว่า อย่างเช่นเครื่องเป่าลมขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงาน เป็นต้น
2.เซอร์โวมอเตอร์
คือมอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ หน้าที่หลักก็คือควบคุมการทำงานตามคำสั่งที่ป้อนเข้าไป โดยมอเตอร์เซอร์โซจะทำงานได้ ต้องมีอุปกรณ์เสริมเข้ามาร่วมด้วย นั่นก็คือ เซอร์โวไดร์ฟ และคอนโทรลเลอร์
3.ดีซีมอเตอร์
คือมอเตอร์ที่ใช้กับไฟฟ้ากระแสตรง จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
- มอเตอร์ชนิดที่มีแปรงถ่าน
คือมอเตอร์มีแปรงถ่านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราจะพบเห็นบ่อยอย่างเช่น ในรถแข่งขับคับแข็งเด็ก รนยนต์ ซึ่งมอเตอร์ชนิดจะราคาถูก เพราะการผลิตไม่ได้ซับซ้อน แต่ข้อเสียก็คือสึกหรอได้ง่าย เพราะเปรงถ่านเวลาใช้งานนานๆ จะเกิดความร้อนและพัง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม และเวลาใช้มักเกิดเสียงดังรบกวน
- มอเตอร์ชนิดที่ไม่มีแปรงถ่าน
คือมอเตอร์ที่จะใช้กับเครื่องบินบังคับ แต่จะใช้ชุดแม่เหล็กถาวรเข้ามาแทนแปรงถ่าน ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงกว่าแบบ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีแปรงถ่าน ไม่ต้องมีการบำรังรักษาเหมือนกันมอเตอร์แปรงถ่าน ไม่มีเสียงดังรบกวน และให้กำลังที่สูงกว่า แต่ข้อเสียคือมีราคาที่สูง
4.มอเตอร์แบบสั่น
เป็นมอเตอร์ที่เราเห็นอยู่ใกล้ตัวเช่นกัน อย่างในมือถือที่มีระบบสั่น ก็จะใช้คุณสมบัติของมอเตอร์ชนิดนี้เข้ามาเป็นส่วนประกอบ โดยจะเกิดจากระบบไฟฟ้าที่ไม่สมดุล จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนขั้น นิยมนำมาใช้เป็นสัญญาณเตือนประเภทต่างๆ เช่น กริ่งประตู สัญญาณเตือนภัยในอาคาร เป็นต้น
5.สเตปปิ้งมอเตอร์
เป็นมอเตอร์ที่มีความแม่นยำสูงที่สุด โดยในการใช้งานจะมีตัวควบคุมที่ผู้ใช้ต้องป้อนคำสั่งเข้าไป การทำงานจะควบคุมด้วยสัญญาณพัลซ์ ที่จะทำหน้าที่ในการควบคุมตัวไดร์ฟเวอร์อีกที สำหรับการใช้งานสเตปปิ้งมอเตอร์ นิยมนำมาใช้กับงานพิมพ์ งานตัดที่ต้องการความผิดพลาดน้อยที่สุด อย่างเช่นเครื่อง CNC เป็นต้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คือประเภทของ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีการใช้งานในปัจจุบัน หากท่านใดที่ต้องการอยากรู้รายละเอียดของมอเตอร์แต่ละชนิด ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามคู่มือถือ ส่วนถ้านจะนำมาใช้งานเอง ก็ควรข้อมูลให้ดีก่อนว่ามอเตอร์ชนิดไหนเหมาะกับงานแบบใด เพื่อที่จะได้เลือกให้ถูกต้องที่สุด